วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

เส้นทางสู่อาชีพนักการทูต

นักการทูตคืออะไร ?? ที่นี่มีคำตอบ


นายสตีเวน บอสเวิร์ธ ทูตพิเศษของสหรัฐ

แหล่งที่มาของรูปภาพ : http://www.chaoprayanews.com

สวัสดีครับ นี่ก็เป็นบล็อกแรกของการเขียนเรื่องเกี่ยวกับนักการทูตเราจะมาเริ่มต้นกับการรู้จักกับอาชีพนักการทูตกันก่อนเลยครับ เพราะว่าคนส่วนใหญ่นั้นมักจะสงสัยว่าเอ๊ะอาชีพนี้เคยได้ยินและคุ้นหูมาว่าเป็นอาชีพที่ต้องใช้ ภาษา เป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่ว่าภาษานี่แหละ แล้วยังไงต่อ ถ้ามีความรู้ด้านภาษาแล้วจะทำยังไงต่อ นี่จึงเป็นที่มาของข้อสงสัยต่างๆ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันครับ งั้นเราไม่รอช้ากันแล้วเรามาเริ่มทำความรู้จักกับ นักการทูต กันเถอะครับผม


นักการทูต ตัวแทนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

บทบาทหน้าที่นักการทูตโดยหลักๆ แล้วก็คือ การรักษาและส่งเสริมผลประโยชน์ของไทยในเวทีต่างประเทศครับ ดูแล้วเหมือนจะเป็นงานที่มีขอบข่ายกว้างมากแต่ในอดีต บทบาทของนักการทูตโดยส่วนใหญ่แล้วจะเกี่ยวข้องกับการเมืองเสียมากกว่า และมีบทบาทหลักถึงขั้นเป็นตัวตัดสินความอยู่รอดของเอกราชและอธิปไตยของประเทศชาติเลยหละครับ   แต่ทว่าในยุคโลกาภิวัฒน์นี้ บทบาทของนักการทูตนั้นได้ถูกปรับเปลี่ยนไปเพื่อให้ก้าวทันความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้น และการที่นานาประเทศต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มีเรื่องของผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเข้ามามีบทบาทสำคัญขึ้นในนโยบายต่างประเทศโดยจะมีความสำคัญในเรื่องของการเชื่อมโยงกับปัจจัยทางการเมืองและสังคมมากขึ้นครับ


คุณสมบัติของนักการทูต

จะต้องเป็นคนที่ช่างสงสัย เชื่ออะไรยาก ไม่ยอมรับอะไรอย่างปราศจากไร้ซึ่งเหตุผล ดูเหมือนเรื่องมากหรือเข้าใจยากใช่ไหมละครับ ง่ายๆครับ คือเราจะต้องทำเสมือนว่าเราเป็นคนกลางรับฟังเหตุผลของทั้งสองฝ่ายและนำมาพิจารณาก่อนจะตัดสินใจเชื่อเสียก่อนนั่นเองครับ  ที่สำคัญจะต้องชอบตั้งคำถาม มีความสนใจในปัญหาของบ้านเมืองและสังคม ทั้งยังต้องใส่ใจกับความเดือดร้อน ทุกข์สุขของผู้คนที่อยู่ร่วมกันในสังคมครับเพื่อการเข้าใจถึงสภาพของสังคมที่เราจะสามารถแก้ปัญหาได้ยามเมื่อเกิดปัญหาแหละครับ

บทบาทหน้าที่ของนักการทูต

หน้าที่สำคัญของนักการทูต คือ การรักษาและส่งเสริมผลประโยชน์ของไทยในเวทีต่างประเทศ โดยทำหน้าที่รวบรวมและรายงานข้อมูลซึ่่งอาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติครับ ซึ่งบ่อยครั้งมักจะเป็นการแนะนำเกี่ยวกับมาตรการรับมือให้แก่รัฐบาลของประเทศ จากนั้น เมื่อมีนโยบายรับมือออกมาจากรัฐบาลแล้ว นักการทูตจะมีหน้าที่ในการถ่ายทอดออกมา ด้วยวิธีการที่ชักจูงให้แก่รัฐบาลประเทศที่ประจำอยู่นั้น เพื่อพยายามโน้มน้าวให้รัฐบาลเหล่านั้นดำเนินการให้เหมาะสมกับผลประโยชน์ของประเทศแม่ ด้วยวิธีการดังกล่าวนักการทูตจึงเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของวงจรใน กระบวนการนโยบายต่างประเทศครับ

อยากเป็นทูตต้องเรียนอะไร


ผู้ที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 เลือกศึกษาต่อในคณะรัฐศาสตร์ เอกการทูต สิ่งที่สำคัญ คือ
ต้องมีพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ ยิ่งมีความรู้มากยิ่งดี และการทูตไม่ใช่ว่าจะเน้นด้านภาษาอย่างเดียวนะครับ แต่เรายังต้องเรียนนโยบาย การเมือง องค์กร ของประเทศต่าง ๆอีกด้วย ซึ่งก็คือต้องศึกษาเกี่ยวกับการเมืองของต่างประเทศ ถ้าจะให้ดีควรเรียนภาษาอื่นเพิ่มด้วยครับ ยกตัวอย่างภาษาจำพวก ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น เพราะปัจจุบันนี้ ประเทศเหล่านี้เริ่มมีบทบาทต่อโลกมากขึ้นแล้วดังนั้นการสามารถสื่อสารกับคนกลุ่มนี้นับว่าเป็นเรื่องสำคัญมากในความคิดส่วนตัวของผมนะครับ และจะมีการศึกษาถึงประวัติศาสตร์ แต่จะเป็นประวัติศาสตร์เหตุการณ์โลกและการปกครองเสียมากกว่าครับ


ลองศึกษาจากคลิปด้านล่างนี้เพิ่มเติมนะครับ ^_^



ขอบคุณคลิปจาก : True ปลูกปัญญาครับ


เป็นอย่างไรบ้างละครับกับเส้นทางสู่การเป็นนักการทูตครับ ปวดหัวไหมละครับ นี่มันอาชีพการเมืองหรือไงกันนะ แต่อย่างว่าแหละครับถ้าคนที่ Born to be แล้ว ก็จะต้องอย่าลืมพยายามฝึกฝนและพัฒนาตัวเองเพื่อทำให้ความฝันนั้นสำเร็จนะครับ






Diplomat by Tammelody





1 ความคิดเห็น:

  1. เออแล้วเลือกสายไหนคะถ้าเข้าม.ปลายไรงี้ สายวิทย์-คณิต หรือ อังกฤษ ศิลป์

    ตอบลบ